หากมองย้อยกลับไปของนักเตะดาวรุ่งคนนี้ ในวัย 11 ขวบ ตอนนั้นเขาได้เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับทีมชาร์ลตัน อคาเดมี ซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกในการเพาะบ่มสกิลด้านฟุตบอลอาชีพ จนทำให้แม่เขาเอ๋ยปากขึ้นมาว่า โจ โกเมซ คนนี้จะต้องได้ไปเล่นในพรีเมียร์ลีก สักวัน หลังจากนั้นเส้นทางการค้าแข้งฟุตบอลเขาก็เติบโตอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเข้าเซ็นสัญญากับทีมสโมสรชั้นนำของอังกฤษ คือสโมสรลิเวอร์พูล การเข้ามาเล่นในถิ่นแอนฟิวส์ของเขาดูไม่หวือหวามากนัก เพราะเนื่องจากอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยทำให้เขาได้ลงสนามไม่บ่อยและเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้รับการบาดเจ็บอีกครั้ง จนกระทั่งไม่ได้ลงเล่นตลอดทั้งฤดูกาลอย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังติดอันดับแข้งนักเตะดาวรุ่งใน TOP 50 อีกด้วย
ด้วยความโดดเด่นในด้านความสูง ทำให้ โจ โกเมซ เป็นกองหลังที่มีความสามารถในลูกกลางอากาศเป็นอย่างดี มีความเชียวชาญในด้านการยืนตำแหน่งแบบไม่หลุด มีความเร็ว มีความฉลาด หลายสโมสรให้ความสนใจในตัวเขาก่อนที่เขาจะตัดสินใจเลือกลิเวอร์พูล เขาเข้ามายึดตัวจริงแบ็คซ้ายของทีมหงส์แดงได้สำเร็จ แต่ก็ต้องให้ตำแหน่งคืนกับรุ่นพี่จากอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับ โจ โกเมซ ติดทีมชาติอังกฤษทุกรุ่น ตั้งแต่ U-17 U-18 จนถึงทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ “มันเป็นช่วงเวลามีเยี่ยมยอดมาก มีเรื่องให้น่าประหลาดใจเสมอ ในการติดทีมชาติทุกรุ่น และผมได้เข้ามาอยู่ในสโมสรที่เป็นตำนานมากที่สุดแห่งหนึ่ง มันวิเศษที่สุด” โจ โกเมซ บอกกับ บ่อนการพนัน เล่นบอลออนไลน์ ถูกกฎหมาย
อาการบาดเจ็บของเขาที่เกิดขึ้นที่ทำให้เขาต้องอดเล่นตลอดฤดูกาลนั้นมาจากเกมส์ที่เขาติดทีมชาติ U-21 และเมื่อเกมส์การแข่งขันกำลังจะจบลง อังกฤษเป็นฝ่ายนำอยู่ถึง 3 ลูก เขาเกิดอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เข่าขวา แต่คิดว่ากลับไม่เป็นอะไรจนฝืนเล่นต่อนิดหน่อย เพราะในเกมส์นั้นเหลือเวลาเพียงแค่ 10 นาที จากนั้นเขาได้รับการสแกนอย่างละเอียดอีกครั้งจากแพทย์ประจำสโมสร ทำให้เขาถึงกับต้องช็อค เขาไม่สามารถลงสนามได้ตลอดทั้งฤดูกาล ในระหว่างนั้นเป็นยุคเปลี่ยนถ่ายสโมสรอีกด้วย เนื่องจากกุนซือ ร็อดเจอร์ส ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งและ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุมแทน ซึ่ง โจโกเมซ บอกว่า เขาอยากร่วมงานกับนายใหญ่ชาวเยอรมันมานานแล้ว ถือเป็นโอกาสที่ดี แต่ก็ดันมาเกิดเหตุร้ายเสียก่อน และเขาก็หวังว่าสักวันวันที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บเขาจะกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น